การเก็บไวน์เป็นวิธีสำคัญอย่างมากสำหรับคอไวน์ตัวยงที่ต้องการคงรสชาติและคุณภาพของไวน์ให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เพราะไม่เพียงแต่การเลือกซื้อไวน์ที่ดีเท่านั้นที่มีผลต่อการลิ้มรสชาติอันสมบูรณ์แบบของไวน์ แต่ละขวด แต่วิธีเก็บไวน์อย่างเหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญเช่นเดียวกัน และนี่คือเหตุผลที่ “ตู้แช่ไวน์” ถึงกลายเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญสำหรับผู้ที่หลงใหลในการดื่มไวน์นั่นเอง
เนื่องจากตู้แช่ไวน์ได้ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในระดับที่เหมาะสมสำหรับการเก็บไวน์โดยเฉพาะ เพราะการเก็บไวน์ในอุณหภูมิที่ไม่คงที่หรือมีความชื้นที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ไวน์เกิดเสียรสชาติได้ ดังนั้นตู้แช่ไวน์จึงช่วยรักษาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเก็บไวน์ให้คงคุณภาพได้ดีในระยะยาวนั่นเอง
ทำไมการเก็บไวน์จึงสำคัญ?
ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่ความละเอียดอ่อน ไวน์บางตัวมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาในการเก็บรักษาจนกลายเป็นทรัพย์สินอันมีค่า หรือการนำมาเป็นของขวัญ ใช้ในการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษ แม้กระทั่งเป็นของสะสมสำหรับนักดื่มที่หลงใหลในเสน่ห์ของไวน์แต่ละขวด
ดังนั้นคอไวน์หลายท่านจึงให้ความสำคัญสำหรับวิธีเก็บไวน์เป็นอย่างมาก โดยมีหลายปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพและรสชาติของไวน์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตามสภาพแวดล้อมในการเก็บรักษา หากไวน์ที่ไม่ได้ถูกเก็บในที่ที่เหมาะสมอาจทำให้เสียรสชาติ ทำให้ไวน์มีตะกอน หรือเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ความชื้น แสง และการสั่นสะเทือน โดยทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของไวน์ทั้งสิ้น
อุณหภูมิในการเก็บไวน์แต่ละประเภท
การทำความเข้าใจประเภทของไวน์และอุณหภูมิ เก็บไวน์ที่เหมาะสมกับไวน์แต่ละชนิดเป็นขั้นตอนแรกในการเก็บรักษาไวน์ให้มีคุณภาพ เนื่องจากอุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติของไวน์นั่นเอง โดยไวน์สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามสีและวิธีการผลิต ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อแนะนำเฉพาะในการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม ดังนี้
- ไวน์แดง (Red Wine) : ควรเก็บในอุณหภูมิระหว่าง 12 – 18 °C เนื่องจากไวน์แดงมีรสสัมผัสที่หนักแน่น เข้มข้น และมีแทนนิน (Tannin) สูง การเก็บรักษาไวน์แดงจึงไม่ควรอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นจนเกินไป เพื่อลดสัมผัสของแอลกอฮอลล์และรสชาติของแทนนินที่หนักให้มีความพอดี เนื่องจากความเย็นอาจทำให้ไวน์แดงเสียกลิ่นหอมเฉพาะตัวไปได้นั่นเอง
- ไวน์ขาว (White Wine) : สำหรับไวน์ขาวอุณหภูมิในการจัดเก็บควรเย็นกว่าไวน์แดง โดยแนะนำว่าให้อยู่ในช่วงอุณหภูมิระหว่าง 6 – 12 °C ด้วยคาแรกเตอร์ของไวน์ขาวที่มีรสสัมผัสอันสดชื่น ได้กลิ่นหอมและรสชาติที่แตกต่างจากองุ่นแต่ละสายพันธุ์ จึงควรเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าเพื่อคงความสดใหม่และกลิ่นหอมของผลไม้ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น
- ไวน์โรเซ่ (Rosé Wine) : ไวน์โรเซ่เป็นไวน์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างไวน์แดงและไวน์ขาว โดยมีเอกลักษณ์ที่สีชมพูสวยงามและมีรสสัมผัสที่เบาบางไปจนถึงปานกลาง โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วง 6 – 12 °C เช่นเดียวกับการเก็บรักษาไวน์ขาว
- สปาร์กลิงไวน์ (Sparkling Wine) และแชมเปญ (Champagne) : ไวน์ที่มาพร้อมกับฟองอย่างสปาร์กลิงไวน์และแชมเปญซึ่งเกิดจากการหมักบ่มตามธรรมชาติ ควรเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดในบรรดาไวน์ทั้งหมด โดยอยู่ระหว่าง 6 – 8 °C ซึ่งไวน์ที่มีฟองควรเก็บในที่ที่มีความเย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษารสสัมผัสที่มีความสดชื่นและฟองของไวน์ให้อยู่ได้มากที่สุด
ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพของไวน์
คุณภาพของไวน์ไม่เพียงขึ้นอยู่กับการผลิตหรือแหล่งที่มาเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่ส่งผลต่อการรักษาคุณภาพของไวน์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพของไวน์ในการเก็บรักษา ดังนี้
- อุณหภูมิ : อุณหภูมิ เก็บไวน์เป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อไวน์ที่สำคัญที่สุด โดยการเก็บไวน์ในอุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทำให้ไวน์รสชาติเปลี่ยนและเสียคุณภาพได้ไวขึ้น ในขณะที่อุณหภูมิที่ต่ำเกินไปก็อาจทำให้ไวน์รสชาติเพี้ยนและกลิ่นไม่ออกเนื่องจากมีการระเหยของกลิ่นน้อยเกินไป ดังนั้นวิธีเก็บไวน์จึงควรเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับไวน์แต่ละประเภท เพื่อดึงกลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ให้ออกมาโดดเด่นมากที่สุดนั่นเอง
- ความชื้น : ความชื้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อไวน์โดยตรง โดยเฉพาะไวน์ที่ปิดด้วยจุกคอร์ก (Cork) หากความชื้นต่ำเกินไปจะทำให้จุกคอร์กแห้งและหดตัวจนทำให้อากาศสามารถเข้าไปในขวดไวน์ได้ ซึ่งจะทำให้ไวน์เกิดการออกซิเดชัน (Oxidation) และเสื่อมคุณภาพ ในทางกลับกันหากความชื้นสูงเกินไปอาจทำให้ไวน์เกิดเชื้อราได้หรือฉลากอาจเกิดเปื่อยยุ่ยโดยเฉพาะกับขวดไวน์ที่ถูกจัดเก็บเป็นเวลานาน ดังนั้นการรักษาความชื้นในพื้นที่จัดเก็บไวน์ให้อยู่ระหว่าง 50-70% จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อให้ไวน์คงคุณภาพและรสชาติได้อย่างดีเช่นเดิม
- แสงสว่าง : ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่ไวต่อแสง โดยเฉพาะแสงแดดและแสงสว่างจากหลอดไฟ ดังนั้นการที่ไวน์สัมผัสกับแสงสว่างเป็นเวลานานจนเกิดความร้อนและไปเร่งกระบวนการหมักบ่มไวน์ให้ทำงานเร็วขึ้นจะทำให้กลิ่นและรสชาติของไวน์เกิดผิดเพี้ยนไปจากเดิม ดังนั้นวิธีเก็บไวน์ที่ดีจึงควรเก็บในที่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง โดยให้เก็บในที่มืดหรือในตู้แช่ไวน์ที่ออกแบบมาให้ป้องกันแสง UV หรือแสงจากภายนอกนั่นเอง
- การสั่นสะเทือน : ไวน์จำเป็นจะต้องเก็บรักษาในสภาพแวดล้อมที่นิ่งและไม่มีการเคลื่อนไหว เนื่องจากการเคลื่อนไหวหรือการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าเดิมและไวน์ไม่ได้พักอย่างเต็มที่และถูกกระทบกระเทือนตลอดเวลาจนทำให้ไวน์เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเลือกเก็บในตู้เย็นที่มีคอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา เป็นต้น
เก็บไวน์ยังไงให้คงคุณภาพได้นาน ?
วิธีเก็บไวน์ให้คงคุณภาพได้นานต้องอาศัยการดูแลที่เหมาะสมเพื่อช่วยรักษารสชาติ กลิ่น และเอกลักษณ์พิเศษของไวน์แต่ละขวดไว้ให้คงอยู่เป็นเวลานาน โดยมีข้อแนะนำในการเก็บไวน์ยังไงให้คงคุณภาพได้นานยิ่งขึ้น ดังนี้
- ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้คงที่ : ควรเก็บรักษาไวน์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับไวน์แต่ละชนิดตามคำแนะนำข้างต้นอย่างคงที่และมีความเย็นสม่ำเสมอ อีกทั้งต้องรักษาความชื้นให้อยู่ในระดับ 50 – 70% อย่างเหมาะสมสำหรับการเก็บรักษาไวน์ให้คุณภาพคงเดิมอยู่ได้นาน
- วางขวดไวน์ในแนวนอน : สำหรับไวน์ที่ยังไม่ได้เปิดและปิดด้วยจุดคอร์ก (Cork) ควรจัดเก็บโดยการวางในแนวนอนเพื่อให้ไวน์ได้สัมผัสกับจุกคอร์กตลอดเวลา ซึ่งเป็นการทำให้จุกคอร์กไม่แห้งและหดตัวด้วยความเปียกชุ่มจากไวน์ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศสามารถไหลซึมผ่านจุกคอร์กที่แห้งและหดตัวเข้ามาในขวดไวน์และช่วยรักษาคุณภาพของไวน์ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ส่วนไวน์ที่เป็นแบบสกรูแคปหรือแบบหมุนเปิดสามารถวางในแนวตั้งได้โดยไม่มีปัญหา เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องจุกคอร์กแห้งหรือหดตัวนั่นเอง
- เก็บไวน์ให้ห่างจากแสงสว่าง : ควรจัดเก็บไวน์ในที่มืด ห้องทึบแสง หรือใช้ตู้แช่ไวน์ที่มีการป้องกันแสงสำหรับการจัดเก็บไวน์โดยเฉพาะ เนื่องจากแสงแดดและแสงสว่างจากหลอดไฟสามารถเร่งปฏิกิริยาให้ไวน์เสียกลิ่นและรสชาติได้
- หลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือน : ควรจัดเก็บไวน์ในพื้นที่ที่เกิดการสั่นสะเทือนน้อยที่สุดและหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายขวดไวน์บ่อยครั้ง เพราะการสั่นสะเทือนหรือเสียงรบกวนสามารถทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นและส่งผลโดยตรงต่อรสชาติของไวน์ได้
ทำไมถึงต้องมีตู้แช่ไวน์หรือห้องเก็บไวน์สำหรับการเก็บไวน์ที่ดี
วิธีเก็บไวน์ที่ดีต้องอาศัยการควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับไวน์ ซึ่งตู้แช่ไวน์หรือห้องเก็บไวน์ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเก็บรักษาไวน์ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุด โดยสามารถควบคุมอุณหภูมิและรักษาความชื้นได้อย่างคงที่และสามารถตั้งค่าอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำตามประเภทของไวน์ที่ต้องการจัดเก็บ อีกทั้งตู้แช่ไวน์ยังช่วยควบคุมความสว่างให้เหมาะสมเพื่อป้องกันแสงจากภายนอก เช่น การใช้กระจกที่ป้องกันรังสี UV และเลือกใช้หลอดไฟ LED ภายในตู้แช่ไวน์ที่ไม่ส่งผลต่อคุณภาพของไวน์ เป็นต้น รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือนได้ดีกว่าและช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกเก็บไวน์ในตู้เย็นนั่นเอง
บทความแนะนำเพิ่มเติม :
SIAM INTERCOOL รับออกแบบและผลิตตู้แช่ไวน์–ห้องเก็บไวน์
โรงงานผลิตตู้แช่ “SIAM INTERCOOL” ผู้นำด้านการผลิตตู้แช่ไวน์ (Wine Cooler) และห้องเก็บไวน์ (Wine Cellar) ที่มีประสบการณ์ยาวนาน พร้อมให้บริการออกแบบและผลิตตู้แช่ไวน์และห้องเก็บไวน์ทุกดีไซน์ที่คุณต้องการ เพื่อรักษาไวน์ในสภาพที่ดีที่สุดสำหรับนักสะสมและผู้ชื่นชอบในการดื่มไวน์ในสไตล์ที่เป็นคุณมากที่สุด
ติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดจาก SIAM INTERCOOL ได้ที่ช่องทางด้านล่าง
โทร. 061-536-4646
LINE: @siamintercool หรือคลิก https://lin.ee/Nef6ws2g
E-mail : [email protected]
Facebook : Siam Intercool