ปัญหาวัตถุดิบเป็นเรื่องสุดคลาสสิกของร้านอาหารที่มักพบเจอได้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะวัตถุดิบเน่าเสียหรือคุณภาพของวัตถุดิบลดลงก่อนนำมาใช้ประกอบอาหาร เนื่องจากการจัดเก็บผิดวิธีอาจส่งผลต่อคุณภาพของอาหารโดยตรง เพราะฉะนั้นการตั้งค่าอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับตู้แช่สินค้ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้วัตถุดิบหรือสินค้าอาหารสามารถรักษาคุณภาพและความสดใหม่ไว้ได้นานที่สุด
โดย SIAM INTERCOOL เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความเย็นมามากกว่า 20 ปี จึงไม่พลาดที่จะขอแบ่งปันเทคนิคดี ๆ เกี่ยวกับการปรับอุณหภูมิตู้แช่ให้เหมาะสมกับวัตถุดิบและสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภท เนื้อสัตว์, อาหารทะเล, ผักผลไม้, เครื่องดื่ม หรือไข่และผลิตภัณฑ์จากนม มาฝากทุกท่านในวันนี้กันครับ
ทำไมต้องปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับสินค้าแต่ละชนิด?
อุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญในการถนอมอาหารและยืดอายุการเก็บรักษา โดยอุณหภูมิต่ำจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเน่าเสียง่าย ดังนั้นที่ระดับอุณหภูมินี้จึงเป็นช่วงที่สำคัญในการช่วยยืดอายุการเก็บรักษาอาหารไว้ได้นานขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการ กลิ่น รสชาติและลักษณะเนื้อสัมผัสของอาหารไม่ให้เปลี่ยนแปลงอีกด้วย โดย SIAM INTERCOOL ขอยกเหตุผลสำคัญที่ร้านอาหารต้องคอยดูแลปรับอุณหภูมิตู้แช่เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุดิบและอาหาร ดังนี้ครับ…
- เพื่อการรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของวัตถุดิบ: การถนอมอาหารโดยการใช้ความเย็น เป็นการลดอุณหภูมิให้ต่ำลงมามากกว่า 10 °C โดยอุณหภูมิจะส่งผลให้ชะลอการเน่าเสียและลดอัตราการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพของอาหารลง จึงทำให้วัตถุดิบและอาหารคงความสดใหม่ อีกทั้งยังช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติได้ในระยะยาว
- เพื่อการยับยั้งการเกิดจุลินทรีย์ในอาหาร: อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยลดโอกาสในการเกิดเชื้อแบคทีเรียและยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพของอาหารและยังสามารถช่วยยืดอายุการเก็บรักษาให้อยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย
- เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค: การรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับวัตถุดิบและอาหาร จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการรับประทาน ทำให้ผู้บริโภคหรือลูกค้ามั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารว่าถูกสุขลักษณะในการจัดเก็บและไม่ปนเปื้อนด้วยแบคทีเรียจากการเก็บรักษาไม่ถูกวิธี
- เพื่อประหยัดต้นทุน: การปรับอุณหภูมิตู้แช่ให้เหมาะสม ทำให้ลดการใช้พลังงานและไม่สิ้นเปลืองไฟฟ้า ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยลดการสูญเสียและควบคุมต้นทุนด้านวัตถุดิบ ทำให้ไม่เกิดปัญหาวัตถุดิบเน่าเสียและสามารถใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย
โดยสินค้าแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันทั้งเรื่องส่วนผสม อุณหภูมิ ความชื้น รวมถึงอายุของสินค้า ทำให้อาหารแต่ละประเภทมีความต้องการในการเก็บรักษาในช่วงอุณหภูมิที่แตกต่างกัน จึงทำให้เกิดการเก็บรักษาอาหารด้วยการแช่เย็นและแช่แข็งให้อยู่ในระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับสินค้าแต่ละชนิดขึ้นนั่นเองครับ
เก็บรักษาอาหารด้วยการแช่เย็นและแช่แข็ง
การแช่เย็น (Chill)
การแช่เย็น คือ การถนอมอาหารโดยการลดอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 0°C ถึง 5°C ซึ่งอุณภูมิดังกล่าวจะสามารถเก็บรักษาอาหารได้นานกว่าอุณหภูมิในห้องปกติ โดยจะช่วยยืดอายุในการจัดเก็บได้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารและอุณหภูมิในการเก็บรักษา
อาหารที่เหมาะสำหรับการเก็บรักษาด้วยการแช่เย็น ได้แก่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักผลไม้ เครื่องดื่ม ไข่ นมสด หรือผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น
การแช่แข็ง (Frozen)
การแช่แข็ง คือ การถนอมอาหารโดยการลดอุณหภูมิให้ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งที่ -18 °C โดยอุณหภูมิดังกล่าวได้เปลี่ยนสภาพน้ำให้กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งน้ำเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดจุลินทรีย์ เมื่อไม่มีน้ำก็ไม่มีจุลินทรีย์ชนิดใดสามารถเจริญเติบโตในกระบวนการแช่แข็งได้ อีกทั้งการแช่แข็งยังหยุดปฏิกิริยาเคมีหรือหยุดการทำงานของเอนไซม์ ทำให้สามารถจัดเก็บสินค้าได้นานกว่าแบบแช่เย็นและช่วยรักษาสภาพให้มีความใกล้เคียงกับอาหารสดได้แม้จัดเก็บเป็นเวลานาน
อาหารที่เหมาะสำหรับการเก็บรักษาด้วยการแช่แข็ง ได้แก่ เนื้อสัตว์และอาหารทะเลแบบแช่แข็ง ผักผลไม้แบบแช่แข็ง ไอศกรีม อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง เป็นต้น
เมื่อรู้จักการเก็บรักษาอาหารด้วยวิธีการแช่เย็น–แช่แข็งกันไปแล้ว เราจึงขอฝากเนื้อหาสาระดี ๆ สำหรับวิธีการเก็บอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง และวิธีจัดเก็บเพื่อการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัยในบทความ รู้ก่อนปลอดภัยชัวร์ เก็บอาหารและเก็บของสดแบบไหนดีที่สุด กันนะครับ
อุณหภูมิตู้แช่ที่เหมาะสมสำหรับการเก็บรักษาอาหาร 5 ชนิด
อาหารแต่ละชนิดจำเป็นต้องเก็บรักษาในช่วงอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ดังที่เรากล่าวไว้ข้างต้น เนื่องจากความแตกต่างของส่วนผสม อุณหภูมิ ความชื้น และอายุการใช้งานของสินค้า จึงต้องมีการปรับอุณหภูมิตู้แช่ในการเก็บรักษาตามแต่ละประเภทของสินค้าอาหาร ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอย่างเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักและผลไม้ เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งไข่และผลิตภัณฑ์จากนม โดยเราได้แนะนำอุณหภูมิของตู้แช่ที่เหมาะสมในการเก็บรักษาสำหรับอาหารทั้ง 5 ชนิด ดังนี้ครับ
เนื้อสัตว์
เนื้อสัตว์ ในลักษณะประเภทเนื้อสด เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ หรืออื่นๆ ควรจัดเก็บในภาชนะที่สะอาดแยกเป็นสัดส่วนไม่ปนเปื้อนกับวัตถุดิบหรือสินค้าประเภทอื่น โดยอุณหภูมิตู้แช่สำหรับการเก็บรักษาสามารถจัดเก็บได้ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้งาน
- เนื้อสด ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 0°C ถึง 4°C สำหรับการใช้งานภายใน 3-5 วัน
- เนื้อสัตว์แช่แข็ง ควรจัดเก็บในอุณหภูมิต่ำกว่า -18°C สำหรับการใช้งานภายใน 6-12 เดือน
อาหารทะเล
อาหารทะเล อาทิเช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก หรือสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ควรจัดเก็บในภาชนะที่ป้องกันการรั่วซึมหรือปิดสนิท จะช่วยป้องกันจากการดูดซับกลิ่นและรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ได้ โดยอุณหภูมิตู้แช่สำหรับการเก็บรักษาสามารถจัดเก็บได้ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้งาน
- อาหารทะเลสด ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 0°C ถึง 4°C สำหรับการใช้งานภายใน 1-2 วัน
- อาหารทะเลแช่แข็ง ควรจัดเก็บในอุณหภูมิต่ำกว่า -18°C สำหรับการใช้งานภายใน 3-6 เดือน
ผักและผลไม้
ผักผลไม้ ทั้งพืชผักสวนครัว ผลไม้เมืองร้อนหรือผลไม้เมืองหนาว ควรจัดเก็บในภาชนะที่สะอาด และไม่ควรแช่ในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไป เนื่องจากผักหรือผลไม้บางชนิดไม่เหมาะสำหรับการแช่เย็น เพราะอาจทำให้วิตามินหรือแร่ธาตุที่มีประโยชน์ถูกทำลายได้ อีกทั้งยังทำให้เนื้อสัมผัสช้ำหรือเสียรสชาติได้อีกด้วย โดยอุณหภูมิตู้แช่สำหรับการเก็บรักษาสามารถจัดเก็บได้ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้งาน
- ผักผลไม้สด ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 4°C ถึง 10°C สำหรับการใช้งานภายใน 2-14 วัน
- ผักผลไม้แช่แข็ง ควรจัดเก็บในอุณหภูมิต่ำกว่า -18°C สำหรับการใช้งานภายใน 8-12 เดือน
เครื่องดื่ม
การควบคุมอุณหภูมิในการแช่เครื่องดื่ม ทั้งนี้เป็นการรักษารสชาติ ความอร่อย และให้ความเย็นในการดื่มที่สดชื่นสำหรับน้ำดื่ม น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น ซึ่งบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มควรปิดสนิทและอยู่ในอุณหภูมิตู้แช่เครื่องดื่มที่เหมาะสม โดยสามารถจัดเก็บได้ตามวันหมดอายุของสินค้าข้างบรรจุภัณฑ์
- เครื่องดื่มทั่วไป ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 10°C ถึง 15°C
- เบียร์ ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 8°C ถึง 10°C
- ไวน์ ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 6°C ถึง 18°C (โดยขึ้นอยู่กับประเภทของไวน์)
รู้หรือไม่ครับว่าหากคุณต้องการแช่เครื่องดื่มประเภทไวน์ให้มีอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมในการจัดเก็บ จำเป็นจะต้องใช้ตู้แช่ไวน์หรือห้องเก็บไวน์ที่ออกแบบมาเพื่อการเก็บรักษาไวน์โดยเฉพาะ โดยทุกท่านสามารถศึกษาข้อมูลสำหรับการเลือกซื้อตู้แช่ไวน์จากบทความนี้ได้เลยนะครับ แนะนำวิธีเลือกซื้อ “ตู้แช่ไวน์” ให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด
ไข่และผลิตภัณฑ์จากนม
ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนม โดยทั่วไปควรเก็บไว้ในอุณหภูมิตู้แช่ระหว่าง 4°C ถึง 5°C ในภาชนะที่สะอาดหากเป็นบรรจุภัณฑ์ควรมีฝาปิดสนิท และแยกการจัดเก็บภายในตู้แช่เป็นสัดส่วน เนื่องจากเสี่ยงเกิดกลิ่นคาวปนเปื้อนกับอาหารชนิดอื่น
- ไข่ ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 5°C ถึง 7°C สำหรับการใช้งานภายใน 9 วัน
- นมสด ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 4°C ถึง 10°C สำหรับการใช้งานภายใน 5-7 วัน
- โยเกิร์ต ควรจัดเก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 8°C สำหรับการใช้งานภายใน 2-3 สัปดาห์
- ชีส ควรจัดเก็บในอุณหภูมิช่วง 4°C ถึง 5°C สำหรับการใช้งานภายใน 2-3 สัปดาห์
ยืนหนึ่งด้านความเย็นต้องตู้แช่ SIAM INTERCOOL
SIAM INTERCOOL เรามีตู้แช่ ให้คุณเลือกหลากหลายประเภท ทั้งรูปทรง ขนาด และการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมทุกประเภทที่ต้องการใช้งานตู้แช่ โดยมีคุณสมบัติที่สามารถตั้งค่าและควบคุมอุณหภูมิในการจัดเก็บได้อย่างแม่นยำ เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า คงความสดใหม่และยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์ด้านความเย็นมากกว่า 20 ปี ของเรา ให้คุณมั่นใจในตู้แช่ที่ได้คุณภาพและมาตรฐานส่งออก
หากคุณต้องการทราบว่าธุรกิจของคุณควรเลือกใช้ตู้แช่แบบไหนสามารถศึกษาข้อมูลเบื้องต้นได้จากบทความ ธุรกิจของคุณควรใช้ตู้แช่ของ Siam Intercool ประเภทไหน นี้ได้เลยนะครับ หรือต้องการรับคำปรึกษาสำหรับการสั่งซื้อและผลิตตู้แช่เพื่อธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ สามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ
โทร. 0-2941-5735
E-mail : [email protected]
Facebook : Siam Intercool