ทำความรู้จักกับตู้แช่แข็ง และระบบทำละลาย Defrost และ No Frost แตกต่างกันอย่างไร?

การถนอมอาหารนั้นมีหลากหลายวิธี แต่วิธีการถนอมอาหารที่จะช่วยคงสภาพของอาหารให้ดูสดใหม่ ทั้งยังยืดอายุอาหารและวัตถุดิบให้ได้นานขึ้น พร้อมทั้งหยุดการทำงานของเอนไซม์ได้ในขณะเดียวกัน คือ “การแช่แข็ง” เป็นการใช้ความเย็นถนอนมอาหารให้น้อยกว่าจุดเยือกแข็ง ซึ่งควบคุมให้อยู่ในระดับ 0°C หรือต่ำกว่า โดยจะช่วยหยุดการเจริญเติบโตของจุรินทรีย์  จึงทำให้ช่วยคงรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการได้ยาวนาน ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปีเลยทีเดียว 

การแช่แข็ง เป็นวิธีการถนอมอาหารที่หลายธุรกิจเลือกใช้ในการจัดการวัตถุดิบ และเพื่อการแช่แข็งที่มีประสิทธิภาพ ก็ต้องรู้จักกับอุปกรณ์ “ตู้แช่แข็ง” ให้มากขึ้นเพื่อการใช้งานตู้แช่แข็งที่ถูกต้อง วันนี้ SIAM INTERCOOL จึงจะพาทุกคนมารู้จักตู้แช่แข็ง รวมถึงวิธีการใช้งาน และการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณในบทความนี้

ตู้แช่แข็ง คืออะไร มีลักษณะการทำงานอย่างไร?

• ตู้แช่แข็งคือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหน้าที่ทำความเย็น สำหรับการเก็บรักษาวัตถุดิบ หรืออาหารที่ต้องการยืดอายุได้นานยิ่งขึ้น ผ่านการทำให้แข็งด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ในระดับอุณหภูมิ 0°C หรืออุณหภูมิที่ต่ำกว่าลงไป 

ตู้แช่แข็งมีกี่ประเภท และมีข้อแตกต่างกันอย่างไร?

• ตู้แช่แข็งโดยส่วนมากจะพบได้ 2 รูปแบบคือตู้แช่แบบประตูด้านบน และตู้แช่แบบประตูด้านหน้า ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานตามความสะดวกในแต่ละสถานที่ 

ตู้แช่แข็งมีระบบละลายน้ำแข็งกี่แบบ?

เป็นปกติที่ตู้แช่แข็งจะมีน้ำแข็งเกาะตามผนังตู้ เนื่องจากการเปิด-ปิดประตูและการใช้งาน ทำให้อุณหภูมิภายในตู้สัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงจากภายนอก จนเกิดเป็นไอน้ำและความชื้นภายในตู้ ทำให้คอมเพรสเซอร์เร่งทำความเย็นให้เร็วขึ้น จนเกิดไอน้ำและความชื้นที่เริ่มก่อตัวขึ้น และเมื่อสะสมมากขึ้นจนกลายเป็นน้ำแข็งเกาะภายในตู้ตามมา ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ตู้แช่แข็งมีการติดตั้งระบบทำละลายน้ำแข็งภายในตู้ โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ 

1.) ตู้แช่แข็งระบบทำละลายแบบ Defrost  

• ตู้แช่แข็งระบบ Defrost คืออะไร?

ระบบทำละลายน้ำแข็งแบบ Defrost จะมีลักษณะคล้ายกับการทำงานของตู้เย็นที่มีช่องฟรีซ คือการไม่มีระบบทำละลายอัตโนมัติ แต่ต้องกดปุ่มทำละลายเพื่อปิดการทำงานคอมเพรสเซอร์ หรือ ใช้การถอดปลั๊กเพื่อหยุดการทำงานของตู้เท่านั้น เพื่อให้น้ำแข็งที่เกาะตามผนังตู้ละลายไปได้ โดยตู้แช่แข็งระบบนี้จะมีข้อดีประหยัดไฟ ไม่กินไฟเยอะ และที่สำคัญราคาของตู้แช่แข็งระบบ Defrost จะถูกกว่าตู้แช่แข็งที่พัฒนามาใช้ระบบ No Frost 

• ตู้แช่แข็งระบบ Defrost ทำความสะอาดอย่างไร?

ตู้แช่แข็งที่มีระบบทำละลายแบบ Defrost มีความเสียเปรียบกว่ารุ่น No Frost เพราะไม่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาน้ำแข็งเกาะตู้ได้เมื่อใช้งานนานวันเข้าก็จะเกิดน้ำแข็งที่เกาะตู้หนา จนทำให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์หนักขึ้น และทำงานได้ไม่ดี ควรหมั่นดูและใช้งานตู้ให้ถูกต้องดังนี้

1. ก่อนทำความสะอาด ควรจัดการของในตู้แช่แข็งให้เรียบร้อย โดยอาจทำการถ่ายเทของในตู้ไปยังตู้อื่นชั่วคราวก่อน เพื่อทำให้ตู้โล่งและพร้อมสำหรับการทำความสะอาด
2. หากตู้แช่แข็งไม่มีปุ่มกดทำละลาย ให้ปิดสวิตช์ตู้แช่แข็ง จากนั้นถอดปลั๊กตู้แช่แข็ง นำชิ้นส่วนชั้นต่าง ๆ ภายในตู้ออกมา แล้วเปิดประตูตู้แช่แข็งทิ้งไว้ เพื่อให้การทำละลายมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
3. เตรียมภาชนะสำหรับรองน้ำที่มาจากการละลายน้ำแข็ง รวมถึงการใช้ผ้ารองรอบฐานตู้เพื่อซึมซับน้ำเพิ่มเติม
4. หมั่นสังเกตการณ์ทุก 20-30 นาที ถ้าน้ำแข็งที่เกาะผนังตู้สามารถนำออกมาได้ ให้นำน้ำแข็งออกมา โดยห้ามใช้ของมีคม เช่น มีด แซะ เพื่อป้องกันไม่ให้ของมีคมทำให้แผงความเย็นชำรุด 
5. ในกรณีที่ตู้แช่แข็งมีปุ่มทำละลาย ให้กดปุ่มทำละลายโดยยังไม่ต้องถอดปลั๊กตู้แช่แข็ง รอตู้แช่แข็งทำการละลายน้ำแข็งเสร็จ จากนั้นเปิดรูระบายที่มากับตู้เพื่อระบายน้ำออก หรือถ้าเป็นรุ่นที่มีถาดรองระบายให้นำน้ำจากถาดออกมาเท แล้วกลับสู่ขั้นตอนการทำความสะอาด
6. หลังจากนำน้ำแข็งออกมาได้ทั้งหมดแล้ว ให้ทำการเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด 
7. นำน้ำอุ่นผสมน้ำสายสายชู และน้ำยาล้างจาน จากนั้นใช้กระบอกฉีดน้ำ หรือฟ๊อกกี้ ฉีดลงไปทั้งภายใน และภายนอกตู้แช่แข็ง แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบออก และเช็ดให้แห้ง จะช่วยลดกลิ่นและขจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ภายในตู้ได้ง่ายขึ้น
8. ติดตั้งชั้นทั้งหมดกลับคืนสู่ตู้แช่แข็ง เสียบปลั๊ก เปิดสวิตช์ทำงาน จากนั้นเปิดการทำงานทิ้งไว้อย่างต่ำ  8 ชั่วโมง ก่อนจะทำวัตถุดิบกลับมาแช่อีกครั้ง เพียงเท่านี้การทำงานของตู้แช่ก็จะกลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง 

2.) ตู้แช่แข็งระบบทำลายแบบ No Frost

• ตู้แช่แข็งระบบ No Frost คืออะไร?

ระบบทำละลายน้ำแข็งแบบ No frost เป็นระบบที่เริ่มแพร่หลายขึ้นในวงการการผลิตตู้แช่แข็ง และตู้เย็น โดยมีข้อดีคือสามารถทำละลายได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งทำให้ตู้แช่แข็งหมดปัญหาเรื่องน้ำแข็งเกาะตามผนังตู้ไปโดยสิ้นเชิง เพราะมีการทำละลายอัตโนมัติในทุก 6 ชั่วโมง ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน นอกจากนี้การทำงานของคอมเพรสเซอร์และคอยล์ของตู้แช่แบบ No Frost จะมีกลไกที่ทำให้ความเย็นกระจายอย่างทั่วถึง และมีอุณหภูมิคงที่ ซึ่งก็ต้องแลกมากับราคาที่สูงกว่าระบบละลายน้ำแข็งแบบ Defrost นั่นเอง 

• ตู้แช่แข็งระบบ No frost ทำความสะอาดอย่างไร?

วิธีการทำความสะอาดตู้แช่แข็ง ประเภท No Frost นั้นสามารถใช้วิธีการทำความสะอาดแบบตู้เย็น หรือ ตู้แช่ทั่วไปได้เลย เพราะข้อดีของตู้แช่ระบบ No Frost  คือการไม่มีน้ำแข็งเกาะติดตามผนังตู้ เนื่องจากมีระบบทำละลายน้ำแข็งอัตโนมัติอยู่แล้ว โดยมีวิธีการทำความสะอาดดังนี้ 

1. ก่อนทำความสะอาด ควรจัดการของในตู้แช่แข็งให้เรียบร้อย โดยอาจทำการถ่ายเทของในตู้ไปยังตู้อื่นชั่วคราวก่อน เพื่อทำให้ตู้โล่งและพร้อมสำหรับการทำความสะอาด
2. ปิดสวิตช์ตู้แช่แข็ง (หากมี) จากนั้นถอดปลั๊กตู้แช่แข็ง นำชิ้นส่วนชั้นต่าง ๆ ภายในตู้ออกมา
3. นำน้ำอุ่นผสมน้ำสายสายชู และน้ำยาล้างจาน จากนั้นใช้กระบอกฉีดน้ำ หรือฟ๊อกกี้ ฉีดลงไปทั้งภายใน และภายนอกตู้แช่แข็ง แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบออก และเช็ดให้แห้ง 
4. ติดตั้งชั้นทั้งหมดกลับคืนสู่ตู้แช่แข็ง เสียบปลั๊ก เปิดสวิตช์ทำงานนำสิ่งของที่แช่ก่อนหน้ากลับมาแช่ไว้ในตู้อีกครั้ง 

ใช้งานตู้แช่แข็งในธุรกิจอย่างไรให้เกิดประโยชน์? 

การใช้งานตู้แช่แข็งในธุรกิจน้ัน ถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้หลายอุตสาหกรรม อาทิเช่นอุตสาหกรรมอาหารที่มีหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจเชนร้านอาหาร หรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ใช้จัดการและวางแผนสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ และยืดอายุการเก็บรักษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้

• ตู้แช่แข็งสามารถยืดอายุของวัตถุดิบ  และอาหารโดยที่ไม่เสียรสสัมผัสหรือสภาพของอาหาร โดยการยืดอายุ ผ่านการแช่แข็ง ซึ่งสามารถเก็บได้นานตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบนั้น ๆ และกระบวนการจัดการกับวัตถุดิบก่อนนำแช่แข็ง 
• ตู้แช่แข็งช่วยจัดการสต๊อกวัตถุดิบให้กับร้านอาหาร  ที่ต้องการทำต้นทุนให้ถูกที่สุดด้วยการซื้อวัตถุดิบจำนวนเยอะ การเก็บสต๊อกวัตถุดิบในตู้แช่แข็งจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง สำหรับร้านที่ต้องการซื้อวัตถุดิบจำนวนเยอะ 

เลือกตู้แช่แข็งอย่างไรให้เหมาะสมกับธุรกิจ?

• ตู้แช่แข็งมินิมาร์ท แบบเดินท่อ 

ตู้แช่มินิมาร์ทรุ่นนี้เป็นการทำระบบแบบเดินท่อ Copper Line มีจุดเด่นที่สูญเสียความเย็นได้ยาก มีถาดน้ำทิ้ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ต้องการตู้แช่แข็งสำหรับการแช่อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง หรือร้านอาหารที่ต้องการตู้แช่แข็งสำหรับการสต๊อกวัตถุดิบที่มีกระจกบริเวณประตูตู้ที่สามารถทำให้เห็นวัตถุดิบที่แช่ได้ตลอดเวลา 

• ตู้ยืนร้านอาหาร 

ตู้ยืนร้านอาหาร หรือตู้แช่แข็งทรงยืนชนิดนี้มีโครงตู้เป็นเหล็ก PCM ที่ลดการเป็นสนิม ตัวตู้ใช้ระบบเดินท่อ Copper Line มีถาดชักน้ำทิ้ง และทำอุณหภูมิได้ต่ำถึง -15°C ถึง -18°C สูญเสียความเย็นได้ยาก และมีกระจกบริเวณประตูตู้ที่สามารถทำให้เห็นวัตถุดิบที่แช่ได้ตลอดเวลา มีให้เลือกหลายขนาด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครัวร้านอาหารที่ต้องการตู้แช่แข็งสำหรับการสต๊อกสินค้า

• ตู้ยืนสเตนเลส 

ตู้ยืนสเตนเลสจะมีลักษณะเป็นตู้ทึบ ผลิตด้วยสเตนเลสอย่างดี อย่างสเตนเลส 304 ที่ปลอดภัยต่อการใช้งาน ไร้การปนเปื้อน ตัวตู้ยืนสเตนเลสรุ่นนี้จะมีการทำงานด้วยระบบ Fancool ที่มาคู่กับการทำละลายแบบ No Frost จึงทำให้หมดห่วงเรื่องการจับตัวของน้ำแข็งตามผนังตู้แช่แข็ง มีให้เลือกหลายขนาด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ในครัวร้านอาหาร 

• ตู้นอนสเตนเลส 

ตู้นอนสเตนเลสมีลักษณะเป็นตู้ทึบ ผลิตด้วยสเตนเลสอย่างดี อย่างสเตนเลส 304 ปลอดภัยต่อการใช้งาน ไร้สารปนเปื้อน สามารถใช้กับของบริโภคได้ มีจุดเด่นที่ตู้ผนังหนาเป็นฉนวน ทำให้ช่วยประหยัดไฟ มีให้เลือกหลายขนาดตามพื้นที่การใช้งาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจร้านอาหาร และร้านขายเครื่องดื่ม คาเฟ่ ทั่วไป 

ปัจจุบันการผลิตตู้แช่แข็งเริ่มมีการพัฒนาให้ฟังก์ชั่นการใช้งานด้านต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงต้องประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์พลังงานโลกในปัจจุบัน และถือเป็นการบริหารต้นทุนในธุรกิจได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่ง SIAM INTERCOOL เข้าใจผู้ที่ทำธุรกิจดี เรามีตู้แช่เย็น ตู้แช่แข็งหลากหลายแบบ ทั้งยังรับผลิตงานตู้แช่ที่เหมาะกับแต่ละประเภทธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ 

และสำหรับใครที่อยากใช้งานตู้แช่ให้ประหยัดพลังงานเราขอแนะนำสาระดี ๆ จากบทความ ตู้แช่ไม่เย็น แถมเปลืองไฟ ใช้งานแบบไหนเสี่ยงตู้พัง? มาดูกันว่าใช้แบบไหนถึงจะทำให้ตู้แช่อยู่ได้นาน และไม่เปลืองไฟ บทความนี้เรารวบรวมเทคนิค และเคล็ดลับดี ๆ มาฝากเพียบ ลองเข้าไปอ่านกันได้เลยครับ