รู้ก่อนปลอดภัยชัวร์ เก็บอาหารและเก็บของสดแบบไหนดีที่สุด

จากอากาศที่ร้อนจนตับจะแตกช่วงนี้ เชื่อว่าเราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าใกล้เข้าหน้าร้อนเต็มทีแล้ว แต่เพราะอากาศร้อนแบบนี้นี่แหละ สิ่งที่เราควรคำนึงถึงคืออาหาร และของสดที่เตรียมใช้ประกอบอาหารต่าง ๆ เพราะในหน้าร้อนที่มีอุณหภูมิสูงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในอาหารได้เป็นอย่างดี จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมื่อรับประทานอาหารที่ทิ้งไว้ตามอุณหภูมิห้องเฉย ๆ อาจส่งผลให้ผู้ทานเกิดอาการท้องร่วง หรืออาหารเป็นพิษได้ 

วันนี้ Sian Intercool เลยขอพาทุกคนมาดูวิธีเก็บอาหาร และเก็บของสด เก็บแบบไหนถึงจะดีที่สุด? การเก็บแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง? และอุณหภูมิแบบไหนที่เหมาะสมกับต่อเก็บอาหาร เก็บของสด? บทความนี้จะทำให้คุณได้รู้วิธีการเก็บอย่างถูกต้อง และปลอดภัยจากการทานอาหารแน่นอน 

อุณหภูมิและการเก็บอาหารที่ควร “หลีกเลี่ยง”

การปล่อยอาหารที่ปรุงสุกไว้ในอุณหภูมิจะทำให้อายุการเก็บของอาหารสั้นลงยิ่งขึ้น เพราะอุณหภูมิภายในห้อง หรืออุณหภูมิที่อยู่ระหว่าง 4°C ถึง 60°C จะเป็นอุณภูมิที่เอื้อให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อาหารบูด หรือเน่าเสีย ดังนั้นเมื่อทำปรุงอาหารสุกจนเสร็จแล้ว ควรรับประทานให้หมด หรือถ้าไม่หมดจริง ๆ ก็ไม่ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารที่ทำจากกะทิ อาหารที่มีความมันสูง อาหารทะเล อาหารที่มีรสจัด หรือรสเปรี้ยว เช่นเมนู ขนมจีนน้ำยากะทิ, แกงกะทิ, ข้าวมันไก่, ส้มตำ และ ยำ เป็นต้น 

อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บอาหาร

อาหารปรุงสุกควรเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 60°C  จะเป็นอุณหภูมิที่ปลอดภัยสำหรับอาหารปรุงสุก สำหรับร้านอาหารทั่วไป เช่นร้านข้าวแกง หรือบุฟเฟ่ต์ การจัดอาหารปรุงสุกในไลน์อาหารควรมีอุปกรณ์ทำความร้อน เช่น ถาดอุ่นอาหาร หรือ หม้อหุงข้าวเพื่อให้เกิดความร้อนกับอาหารอยู่ตลอด และเมื่อต้องการที่จะเก็บอาหารไว้ในที่เย็น อย่างเช่น ตู้เย็น หรือตู้แช่เย็น ควรเก็บไว้ในตู้ที่ถูกตั้งอุณหภูมิไว้ต่ำกว่า  4°C ซึ่งจะทำให้เก็บอาหารไว้ทานต่อได้ 3-5 วัน เมื่อจะรับประทานให้นำมาอุ่นร้อนอีกครั้ง หรือถ้าต้องการแช่แข็ง สามารถใส่ได้ในช่องฟรีซ หรือตู้แช่แข็ง อาหารของคุณจะสามารถยืดอายุอยู่ได้ถึง 3-5 เดือน แต่รสชาติอาหาร และรสสัมผัสหลังจากการทำอุ่นร้อนแล้วอาจจะเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย 

อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บของสด 

การเก็บของสดสามารถเก็บได้ทั้งแบบแช่เย็น และแช่แข็ง โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเก็บของสด ประเภทเนื้อสัตว์ อุณหภูมิจะอยู่ที่ 0°C ถึง 4°C โดยจะสามารถอยู่ได้นาน 5-7 วัน และการแช่แข็งเนื้อสัตว์จะใช้อุณหภูมิที่ต่ำกว่า -18 °C จะทำให้การเก็บของสดประเภทนี้อยู่ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน โดยทั้งหมดนี้สามารถใช้ได้กับทั้งการใช้ตู้เย็นทั่วไป หรือตู้แช่แข็งโดยเฉพาะก็ทำได้เช่นกัน  ในส่วนของการเก็บของสดประเภทผัก หรือผลไม้ การเก็บในตู้เย็นทั่วไปจะนิยมใช้ช่องล่างสุดสำหรับการเก็บผัก เพื่อหลีกเลี่ยงให้ผักไม่สัมผัสความเย็นโดยตรงเพราะทำให้ใบผักเหี่ยวเน่า และถ้าต้องการแช่แข็งวิธีเก็บจะมีอยู่ 2 วิธีคือ 

1.) เก็บแบบใช้กระดาษห่อ และใส่ถุง โดยก่อนเก็บจะต้องทำการเด็ดใบผักที่เหี่ยวออกให้หมดเสียก่อน วิธีนี้จะทำให้ผักแช่แข็งยืดอายุได้ถึง 2-3 เดือน โดยที่สภาพที่จะนำออกมาใช้การยังคงดูสภาพสดใหม่ 

2.) การนำผักไปลวกแล้วแช่แข็ง วิธีนี้เห็นได้บ่อยผ่านวัตถุดิบแช่แข็งที่ซื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ต โดยวิธีการทำคือนำผัก หรือธัญพืชเหล่านั้นมาต้มให้สุก จากนั้นทำการใส่กล่อง หรือถุงซิปล็อกแล้วนำเข้าแช่ในช่องฟรีซ หรือตู้แช่แข็ง ก็จะช่วยยืดอายุของผักได้นานถึง 6 เดือน

รู้ถึงวิธีการเก็บอาหาร และเก็บของสดแต่ละประเภทกันแล้ว เราก็ขอฝากตัวช่วยดี ๆ ที่คุณภาพเปี่ยมล้น อย่างตู้แช่เย็น และตู้แช่แข็งจาก Siam intercool ไปเป็นตัวช่วยในการเก็บของสดที่ดีของธุรกิจของคุณด้วยนะครับ ระหว่างนี้ถ้าใครอยากหาอะไรอ่านเพลิน ๆ มาอ่านบทความน่ารู้ ในการใช้ตู้แช่อย่างไรไม่ให้พังได้ในบทความนี้ และสำหรับครั้งหน้าเราจะมาพร้อมกับบทความ หรือข่าวสารดี ๆ ที่เกี่ยวกับตู้แช่เรื่องไหนรอติดตามกันได้ผ่านเว็บไซต์ของ Siam Intercool ได้เลย