เชื่อว่าหลายคนมักจะสับสนว่าตู้แช่กับตู้เย็นต่างกันยังไง เพราะทั้งสองดูคล้ายกันด้วยคุณสมบัติหลักเพื่อการเก็บรักษาวัตถุดิบ อาหาร และเครื่องดื่มให้คงสภาพเดิมอยู่ได้นาน แต่จริง ๆ แล้วทั้งคู่กลับมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างตู้แช่กับตู้เย็นอย่างชัดเจนทั้งเรื่องอุณหภูมิ กลไกลการทำงาน ระบบทำความเย็น และปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ทำงาน ดังนั้นเราจะพาคุณไปทำความเข้าใจกับความแตกต่างระหว่างตู้แช่และตู้เย็น รวมถึงแนะนำวิธีเลือกซื้อตู้เย็นและตู้แช่ ให้เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุดกัน
ความแตกต่างระหว่างตู้แช่และตู้เย็น
ตู้แช่ (Freezer) และตู้เย็น (Refrigerator) ต่างเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องทำให้เกิดอุณหภูมิความเย็นเพื่อใช้ในการจัดเก็บอาหารและเครื่องดื่มให้อยู่ได้นาน แต่ก็มีการทำงานและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอุณหภูมิแฃะขนาดพื้นที่จัดเก็บก็ต้องสอดคล้องและเหมาะสมกับจุดประสงค์ในการใช้งานด้วย ซึ่งมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างตู้แช่และตู้เย็นดังต่อไปนี้
- อุณหภูมิ
อุณหภูมิเป็นความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างการทำงานของตู้แช่และตู้เย็น โดยตู้แช่จะสามารถทำอุณหภูมิได้ต่ำกว่าตู้เย็น ซึ่งโดยทั่วไปช่วงอุณหภูมิในการทำงานสำหรับช่องแช่เย็น (Chill) จะอยู่ที่ +2°C ถึง +8°C สำหรับช่องแช่แข็ง (Freezer) จะอยู่ที่ -18°C หรือต่ำกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการผลิตของแต่ละยี่ห้อและรุ่นของตู้แช่ร่วมด้วย ส่วนตู้เย็นจะทำอุณหภูมิในช่วงที่สูงกว่าตู้แช่ โดยทั่วไปสำหรับช่องแช่เย็นจะอยู่ที่ +0 ถึง +4°C และช่องแช่แข็งจะอยู่ที่ -17°C ถึง -19°C ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ผู้ผลิตเช่นเดียวกับตู้แช่เหมือนกันนั่นเอง
- ขนาดและรูปทรง
ตู้เย็นและตู้แช่แต่ละรุ่นมีขนาดและรูปทรงที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยปกติแล้วตู้เย็นจะมีประตูเดียวหรือสองบานและมีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ รวมถึงมีทั้งรูปแบบตู้เย็นบิวท์อิน (Built-In) และแบบสแตนด์อโลนหรือตู้เย็นแบบทั่วไปนั่นเอง ส่วนตู้แช่มักจะมีขนาดใหญ่และมีพื้นที่ในการใช้งานมากกว่า ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ตู้แช่แบบ 1 ประตูจนถึง 6 ประตู มีทั้งแบบตู้แช่ทรงนอนและตู้แช่ทรงยืน และรูปทรงที่หลากหลาย ตลอดจนสามารถสั่งผลิตพิเศษเพื่อการใช้งานเฉพาะของคุณได้ จึงเหมาะสำหรับการเก็บวัตถุดิบและอาหารในปริมาณมากที่ต้องการความเย็นจัดและเก็บได้นานนั่นเอง
- พลังงานไฟฟ้าที่ใช้
คำถามที่หลายคนข้องใจว่าตู้แช่กับตู้เย็น อันไหนกินไฟกว่ากัน คำตอบคือ ตู้แช่มักใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าตู้เย็น เนื่องจากความต้องการในการรักษาอุณหภูมิที่ต่ำมากกว่าตู้เย็นนั่นเอง อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการใช้พลังงานไฟฟ้าของตู้แช่และตู้เย็นเช่นเดียวกันทั้งขนาดของตู้เพราะตู้ที่มีขนาดใหญ่กว่าจะกินไฟมากกว่าตู้ที่มีขนาดเล็ก ปริมาณอาหารที่จัดเก็บในตู้เนื่องจากการเก็บอาหารมากเกินไปจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น รวมถึงการเปิด-ปิดประตูบ่อย ๆ จะทำให้อุณหภูมิภายในเปลี่ยนแปลง จนทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น หรือแม้กระทั่งอุณหภูมิห้องที่สูงขึ้นก็จะทำให้อุณหภูมิภายในตู้สูงขึ้นจนทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักได้เหมือนกัน ไม่เพียงเท่านั้นเทคโนโลยีที่ใช้ในระบบทำความเย็นบางรุ่นก็มีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานได้ เช่น Inverter เป็นต้น
ระบบทำความเย็นระหว่างตู้แช่และตู้เย็น
ไม่ว่าจะเป็นตู้แช่หรือตู้เย็นก็มีหลักการทำงานโดยรวมที่คล้ายคลึงกันในเรื่องการทำให้เกิดความเย็นเพื่อใช้ในการจัดเก็บอาหาร แต่ระบบทำความเย็นภายในนั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง เพื่อให้ได้อุณหภูมิและประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยมีหลักการทำงานของตู้แช่และตู้เย็น ดังต่อไปนี้
- หลักการทำงานของตู้แช่ : คอมเพรสเซอร์ของตู้แช่จะอัดสารทำความเย็นส่งไปยังเครื่องระเหย เพื่อลดความดันลงและทำให้สารทำความเย็นดูดซับความร้อนและเคลื่อนย้ายความร้อนภายในออกไปจากตู้แช่ทำให้มีอุณหภูมิเย็นลง โดยการระบายความร้อนผ่านพัดลมระบายความร้อน ซึ่งอาจทำให้เสียงรบกวนเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ตลอดจนทำให้มีการใช้พลังงานสูงกว่า แต่อุณหภูมิของตู้แช่ที่ได้จะมีความคงที่และทำความเย็นได้ดีและเร็วกว่าตู้เย็น
- หลักการทำงานของตู้เย็น : การทำงานของเครื่องอัดไอหรือคอมเพรสเซอร์จะทำหน้าที่ในการถ่ายเทความร้อนภายในตู้เย็นออกไป โดยการอัดแก๊สของสารทำความเย็นให้เป็นของเหลวที่บริเวณคอยล์ร้อน แล้วส่งผ่านไปยังเครื่องระเหยซึ่งจะทำให้ความดันของเหลวลดลงจนเปลี่ยนสถานะจากแก๊สกลายเป็นไอ และนำพาเอาความร้อนจากภายในตู้เย็นออกไปเพื่อทำให้อุณหภูมิภายในตู้เย็นลดลง ต่อมาแก๊สของสารทำความเย็นจะถูกดูดโดยเครื่องอัดไปยังเครื่องควบแน่นเพื่อถ่ายเทความร้อนออกจากระบบ ทำให้สารทำความเย็นรับความร้อนที่เครื่องระเหยอีกครั้ง และความเย็นจากสารทำความเย็นถูกดูดกลับมาบางส่วนเพื่อช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องอัดคอมเพรสเซอร์
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : น้ํายาแอร์.com, จาก https://xn--q3csd3bxab9hsc7ad.com/working-principle-of-refrigeration-system-of-refrigerator-vs-freezer/
วิธีเลือกตู้แช่และตู้เย็นให้เหมาะกับการใช้งาน
วิธีเลือกซื้อตู้เย็นและวิธีเลือกตู้แช่แข็งให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้นสำคัญมากเพราะจะช่วยให้คุณเก็บรักษาวัตถุดิบ อาหาร และเครื่องดื่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยในการประหยัดพลังงานได้อีกด้วย เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อมาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรพิจารณาเพื่อให้คุณเลือกซื้อตู้แช่หรือตู้เย็นได้อย่างเหมาะสมกัน
ความต้องการในการใช้งาน
- ตู้แช่ : เหมาะสำหรับการเก็บรักษาอาหารที่ต้องการอุณหภูมิต่ำ จัดเก็บได้นาน และสามารถจัดเก็บได้ในปริมาณมาก รวมถึงต้องเลือกประเภทของตู้แช่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยส่วนใหญ่ตู้แช่มักจะใช้ในเชิงพาณิชย์หรือเพื่อการค้า เช่น ตู้แช่เครื่องดื่ม ตู้แช่ของสด ตู้แช่เนื้อสัตว์ เป็นต้น
- ตู้เย็น : เหมาะสำหรับการเก็บรักษาอาหารที่ต้องการอุณหภูมิความเย็นทั่วไปที่ใช้สำหรับภายในครัวเรือน โดยเลือกขนาดของตู้เย็นที่เหมาะสมกับพื้นที่และปริมาณอาหารที่ต้องการจัดเก็บให้เพียงพอสำหรับจำนวนสมาชิกในครอบครัว เช่น ตู้เย็นเล็ก ตู้เย็น 1 ประตู ตู้เย็น 2 ประตู เป็นต้น
ฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐาน
การพิจารณาถึงคุณสมบัติพื้นฐานในการใช้งานของตู้แช่หรือตู้เย็นประกอบการเลือกซื้อจะช่วยให้คุณเลือกตู้ที่ถูกประเภทไปใช้งาน โดยจะต้องศึกษารายละเอียดของตู้แช่และตู้เย็นที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ เช่น ระบบทำความเย็น ระบบทำละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ระบบระบายน้ำ ชั้นวาง ลิ้นชัก แผงควบคุมการทำงาน ตลอดจนเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน เป็นต้น ทั้งนี้สามารถศึกษาข้อมูลเบื้องต้นได้จากแบรนด์ผู้ผลิต หรือสอบถามรายละเอียดจากตัวแทนจำหน่ายในการเลือกซื้อตู้แช่และตู้เย็นได้
ขนาดและการจัดวาง
การจะเลือกซื้อตู้แช่หรือตู้เย็นควรตรวจสอบขนาดพื้นที่ที่คุณมีสำหรับการตั้งตู้แช่หรือตู้เย็น และตรวจสอบขนาดของตู้แช่หรือตู้เย็นที่จะซื้อให้พอดีกับพื้นที่นั้น โดยจะต้องคำนึงถึงการจัดวางที่มีความสะดวกในการเปิดปิดประตูและการเข้าถึงภายในตู้ พิจารณาถึงปริมาณของที่ต้องการจัดเก็บและความถี่ในการซื้อของให้มีปริมาณเพียงพอ
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
เทคนิคการเลือกตู้แช่หรือตู้เย็นที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดี จะต้องคำนึงถึงการประหยัดไฟมาเป็นอันดับแรก เพราะตู้ทั้งสองเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการเปิดใช้งานตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน ดังนั้นการเลือกซื้อตู้แช่หรือตู้เย็นที่มีคุณภาพสูงผ่านการรับรองมาตรฐาน หรือมี ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 การันตีความประหยัดพลังงานจะช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาวนั่นเอง
SIAM INTERCOOL โรงงานผลิตตู้แช่ไทยที่ทั่วโลกยอมรับ
SIAM INTERCOOL โรงงานผลิตตู้แช่ชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตตู้แช่หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นตู้แช่เย็น ตู้แช่แข็ง ตู้แช่ของสด ตู้แช่เครื่องดื่ม และตู้แช่อื่นๆ อีกมากมาย ที่ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นผลิตในประเทศไทย MiT (Made in Thailand) ทำให้ควบคุมคุณภาพได้ง่าย และมีบริการหลังการขายที่รวดเร็ว
โดยให้บริการจำหน่าย-ออกแบบ-ติดตั้งตู้แช่ ครบวงจรเพื่อทุกธุรกิจ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด จนได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศ
หากคุณกำลังมองหาตู้แช่คุณภาพดีที่ผลิตในประเทศไทย และมีบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ SIAM INTERCOOL คือคำตอบของคุณ !
สนใจติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดจากเรา SIAM INTERCOOL ได้ที่ช่องทางด้านล่างเลยครับ
โทร. 061-536-4646
LINE: @siamintercool หรือคลิก https://lin.ee/Nef6ws2g
E-mail : [email protected]
Facebook : Siam Intercool