ตู้แช่เนื้อ VS ตู้เย็น ตู้แบบไหนที่ร้านอาหารควรเลือกใช้?

ตู้แช่เนื้อ VS ตู้เย็น ตู้แบบไหนที่ร้านอาหารควรเลือกใช้

เมื่อพูดถึงการจัดเก็บวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ ตู้แช่เนื้อถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับร้านอาหาร เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะช่วยในการเก็บรักษาและยืดอายุของวัตถุดิบได้อย่างดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ร้านอาหารในการดูแลคุณภาพของวัตถุดิบ รักษาความปลอดภัยของอาหาร และช่วยลดปริมาณวัตถุดิบและอาหารที่เน่าเสียง่ายลงได้ 

ดังนั้นการเลือกใช้อุปกรณ์ในการเก็บรักษาเนื้อสัตว์ที่ถูกต้อง ให้สามารถนำวัตถุดิบมาใช้งานได้นานยิ่งขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการควรใส่ใจ แม้หลายท่านจะยังไม่ทราบว่าควรเลือกใช้ตู้แบบไหนดีเพื่อถนอมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ระหว่าง “ตู้แช่เนื้อ” หรือ “ตู้เย็น” สำหรับร้านอาหารโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นแล้ว ในวันนี้ SIAM INTERCOOL จะมาเล่าให้ทุกท่านได้ทราบกัน ผ่านบทความนี้ครับ “ตู้แช่เนื้อ VS ตู้เย็น ตู้แบบไหนที่ร้านอาหารควรเลือกใช้”

 

ตู้แช่เนื้อ” หรือ “ตู้เย็น” เลือกแบบไหนดี?

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างตู้ทั้งสองแบบกันก่อน โดยจะขอแบ่งประเด็นสำคัญออกเป็น 4 หัวข้อใหญ่ๆ และเปรียบเทียบระหว่าง ตู้แช่เนื้อ และ ตู้เย็น ควบคู่กันไปในแต่ละหัวข้อ ดังต่อไปนี้

 

1. อุณหภูมิในการเก็บรักษา

  • ตู้แช่เนื้อ: ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิที่ค่อนข้างต่ำ โดยปกติหากเป็นตู้แช่แข็งจะสามารถปรับอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงระหว่าง 0 °C ถึง -18 °C (Freeze) ได้ ด้วยอุณภูมิที่เย็นจัดเหล่านี้จะช่วยทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตช้าลง อีกทั้งยังช่วยรักษาความสด รักษาคุณภาพของเนื้อสัตว์ และช่วยยืดอายุของวัตถุดิบไว้ได้นานยิ่งขึ้น
  • ตู้เย็น: ปกติแล้วตู้เย็นจะทำงานในอุณหภูมิที่สูงกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับยี่ห้อของตู้เย็นแต่ละรุ่นด้วย หากเป็นช่องแช่เย็น จะสามารถปรับอุณหภูมิได้ที่ระหว่าง +10 °C ถึง 0 °C ส่วนช่องแช่แข็งจะสามารถปรับอุณหภูมิได้ที่ระหว่าง 0 °C ถึง -18 °C แม้ว่าตู้เย็นจะเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับจัดเก็บสิ่งของหรือวัตถุดิบที่เน่าเสียได้ง่ายก็ตาม แต่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ดีเท่าตู้แช่เนื้อสัตว์ ด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่าของตู้เย็นจะไปเร่งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้เนื้อสดเน่าเสียได้เร็วยิ่งขึ้น

 

2. ระยะเวลาในการจัดเก็บ

  • ตู้แช่เนื้อ: เหมาะสำหรับการจัดเก็บเนื้อสัตว์ในระยะยาว ด้วยการทำอุณหภูมิของตู้แช่เนื้อสดที่ต่ำจะช่วยรักษาคุณภาพของเนื้อสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นระยะเวลานาน โดยกระบวนการแช่แข็งจะเข้าไปช่วยชะลอการเสื่อมสภาพ รักษารสชาติ ความสดใหม่ และคุณภาพโดยรวมของเนื้อสัตว์ให้คงอยู่ได้ยาวนาน
  • ตู้เย็น: เหมาะสำหรับการจัดเก็บเนื้อสัตว์ในระยะสั้น เมื่อเลือกจัดเก็บในตู้เย็น ควรใช้งานวัตถุดิบเนื้อสัตว์ภายใน 2-3 วัน เพื่อช่วงเวลาที่เหมาะสมในการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ยังคงสดและมีคุณภาพอยู่ หากเกินระยะเวลานี้จะมีโอกาสเสี่ยงที่เนื้อสัตว์เกิดเน่าเสียไวยิ่งขึ้นนั่นเองครับ  

 

 3. ความจุของพื้นที่

  • ตู้แช่เนื้อ: มีพื้นที่จัดเก็บที่รองรับเนื้อสัตว์ได้ในปริมาณมาก ด้วยการมีฟังก์ชันทั้งชั้นวาง ช่องสต๊อกสินค้า หรือลิ้นชักหลายชั้นที่ออกแบบมาเพื่อการเก็บรักษาเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในการจัดเก็บได้อย่างเหมาะสม
  • ตู้เย็น: ถึงแม้ว่าตู้เย็นจะมีพื้นที่ความจุในการจัดเก็บพอสมควร แต่ก็อาจไม่กว้างขวางหรือมีอุปกรณ์ครบครันเพียงพอสำหรับจัดเก็บเนื้อสัตว์ในปริมาณมาก เนื่องจากต้องแบ่งพื้นที่สำหรับการจัดเก็บวัตถุดิบหรือสินค้าประเภทอื่นอีกด้วย

 

4. คุณสมบัติพิเศษ

  • ตู้แช่เนื้อ: ตู้แช่เนื้อโดยส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติมที่ออกแบบมาเพื่อการเก็บรักษาเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ อาทิเช่น ความสามารถในการปรับอุณหภูมิและระดับความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการแช่เนื้อสัตว์ ความสามารถควบคุมความเร็วในการทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการออกแบบลักษณะช่องต่าง ๆ สำหรับจัดเก็บเนื้อสัตว์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาคุณภาพของเนื้อสัตว์ได้อย่างเหมาะสม
  • ตู้เย็น: ตู้เย็นมักไม่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะสำหรับการจัดเก็บเนื้อสัตว์แบบตู้แช่เนื้อ ทำให้มีความสามารถที่ด้อยกว่า เช่น การไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในระดับที่เหมาะกับการจัดเก็บเนื้อสัตว์ได้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะปรับอุณหภูมิให้คงที่ที่เหมาะสำหรับการเก็บรักษาเนื้อสัตว์หรือวัตถุดิบอื่นๆ 

 

ทำไมร้านอาหารควรแช่เนื้อสัตว์ไว้ในตู้แช่เนื้อโดยเฉพาะ ? 

ทำไมร้านอาหารควรแช่เนื้อสัตว์ไว้ในตู้แช่เนื้อโดยเฉพาะ ?

จากที่กล่าวไปในข้างต้น การใช้ความเย็นในการถนอมอาหาร เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ และชะลอการเน่าเสียระหว่างรอการผลิตหรือการเก็บรักษาวัตถุดิบไว้ได้นานยิ่งขึ้น แม้ตู้เย็นจะสามารถจัดเก็บวัตถุดิบเพื่อป้องกันการเน่าเสียได้เช่นกัน แต่ตู้แช่เนื้อมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะที่สามารถรองรับการถนอมอาหารและรักษาคุณภาพของเนื้อสัตว์ได้ดีกว่า ซึ่งสามารถเลือกระดับการเก็บรักษาของตู้แช่เนื้อสด โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้องการจัดเก็บ ได้แก่

  • ตู้แช่เย็น (Chiller) : เหมาะสำหรับจัดเก็บเนื้อสัตว์ระยะสั้น ในช่วงอุณหภูมิ 0 °C ถึง 8 °C
  • ตู้แช่แข็ง (Freezer) : เหมาะสำหรับจัดเก็บเนื้อสัตว์ระยะยาว ในช่วงอุณหภูมิที่ต่ำกว่า -15 °C 

 

ซึ่งตู้แช่ทั้งสองประเภทได้รับการออกแบบมาเพื่อแช่เนื้อสัตว์โดยเฉพาะ ร้านอาหารจึงควรเลือกการจัดเก็บวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์เพื่อการประกอบเมนูอาหารไว้ในตู้แช่เนื้อ ด้วยเหตุผลสำคัญดังต่อไปนี้

 

  1. สามารถควบคุมอุณภูมิและความชื้นที่เหมาะกับเนื้อสัตว์ได้ เนื้อสัตว์ต้องการอุณหภูมิและความชื้นเฉพาะ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย โดยตู้แช่เนื้อมีการทำอุณหภูมิต่ำกว่าตู้เย็นทั่วไป และสามารถควบคุมความเร็วในการทำความเย็นได้ดีกว่า ซึ่งช่วยชะลอการเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ คงความสดใหม่และรักษาคุณภาพได้อย่างเหมาะสมกับการจัดเก็บเนื้อสัตว์เพื่อร้านอาหาร

 

  1. สามารถยืดอายุการเก็บรักษาและคงคุณภาพของเนื้อสัตว์ได้ เนื่องจากตู้แช่เนื้อสามารถช่วยรักษาคุณภาพของเนื้อสัตว์ที่แช่อยู่ในตู้แช่ได้เป็นเวลานาน ทำให้ร้านอาหารสามารถกักตุนวัตถุดิบได้มากขึ้น และลดโอกาสที่วัตถุดิบเนื้อจะเน่าเสียก่อนเวลาอันควรได้ อีกทั้งยังสามารถวางแผนการจัดเก็บได้ล่วงหน้า สำหรับการจัดเก็บเนื้อสัตว์ตามฤดูกาล หรือการจัดเก็บเนื้อเฉพาะส่วนสำหรับการใช้งานในอนาคตได้

 

  1. สามารถป้องกันการปนเปื้อนกับวัตถุดิบประเภทอื่นได้ เนื่องจากร้านอาหารต้องจัดเก็บวัตถุดิบหลากหลายประเภท หากเลือกใช้งานตู้แช่เนื้อก็จะสามารถช่วยจัดระเบียบการเก็บเนื้อสัตว์แยกกับวัตถุดิบประเภทอื่นได้เป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยลดสัมผัสและความเสี่ยงในการปนเปื้อน เนื่องจากเนื้อสดสามารถเป็นพาหะนำเชื้อแบคทีเรียไปสู่วัตถุดิบอื่นได้

 

  1. สามารถจัดเก็บเนื้อสัตว์ได้ในปริมาณมากได้ ด้วยความจุของตู้แช่เนื้อสด เหมาะสำหรับร้านอาหารที่มีความต้องการในการจัดเก็บวัตถุดิบปริมาณมากเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยลักษณะการออกแบบตู้แช่มีทั้งช่องสต๊อกสินค้า ชั้นวาง และลิ้นชัก เพื่อรองรับปริมาณการจัดเก็บเนื้อสัตว์จำนวนมาก

 

  1. ช่วยประหยัดต้นทุนจากการซื้อวัตถุดิบเพิ่มได้ ด้วยการจัดเก็บวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ในตู้แช่เนื้ออย่างเหมาะสม นำไปสู่การประหยัดต้นทุนในระยะยาวสำหรับร้านอาหาร ด้วยการยืดอายุการเก็บรักษาและช่วยลดการเน่าเสียของวัตถุดิบเนื้อสัตว์ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าคงคลัง และช่วยลดต้นทุนค่าวัตถุดิบได้อีกด้วย

 

เลือกตู้แช่เนื้อสด ต้องเลือกตู้แช่ จาก SIAM INTERCOOL

เลือกตู้แช่เนื้อสด ต้องเลือกตู้แช่ จาก SIAM INTERCOOL

การลงทุนกับตู้แช่เนื้อสัตว์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับร้านอาหารที่ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพ ความสดใหม่ของวัตถุดิบ และความปลอดภัยของอาหาร เมื่อร้านอาหารของคุณมีวัตถุดิบที่ดีเปี่ยมล้นด้วยคุณภาพ ท้ายที่สุดก็จะช่วยยกระดับการทำอาหารและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าได้อย่างแน่นอน

 

SIAM INTERCOOL จึงขอแนะนำวิธีการเลือกตู้แช่เนื้อของเรา สำหรับร้านอาหารของคุณ ดังนี้…

 

  • รูปแบบของตู้แช่เนื้อ: คุณสามารถเลือกตู้แช่เนื้อสัตว์ได้หลากหลายรูปทรง ไม่ว่าจะเป็นตู้แช่ลักษณะตู้นอน ตู้ตะขอเกี่ยว ตู้โชว์ Display ตู้แช่บานสไลด์หรือตู้แช่สเตนเลส โดยคุณสามารถเลือกชมสินค้าตัวอย่างได้ที่ ตู้แช่ Pork Shop และ ตู้แช่ Stainless
  • ประเภทของตู้แช่เนื้อ: คุณสามารถเลือกประเภทของตู้แช่เนื้อสัตว์ในการจัดเก็บทั้งแบบตู้แช่เย็น (Chiller) หรือแบบตู้แช่แข็ง (Freezer) ขึ้นอยู่กับการทำอุณหภูมิความเย็นและระยะเวลาในการจัดเก็บที่ต้องการ
  • ช่องสต๊อกวัตถุดิบ: คุณสามารถเลือกตู้แช่เนื้อแบบมีช่องสต๊อกหรือแบบไม่มีช่องสต๊อกที่ให้ร้านอาหารของคุณสามารถเลือกจัดเก็บสินค้าได้ตามความเหมาะสม

 

ไม่เพียงเท่านี้ ตู้แช่เนื้อจาก SIAM INTERCOOL ยังผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพภายใต้มาตรฐานส่งออก ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ด้วยระบบการแสดงผลและควบคุมความเย็นสุดล้ำสมัยอย่าง Digital Controller ที่มาพร้อมฟังก์ชันการควบคุมและทำความเย็นด้วยอุณหภูมิคงที่อย่างสม่ำเสมอ ด้วยระบบเดินท่อ Copper Line 

 

เรื่องตู้แช่เนื้อ เรารู้ลึก รู้จริง และพร้อมดำเนินการผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญทุกขั้นตอน

 

หากคุณต้องการสั่งซื้อ สั่งผลิต หรือออกแบบตู้แช่เนื้อที่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับธุรกิจอาหารของคุณ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม กับ SIAM INTERCOOL ได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้เลยครับ 

 

โทร. 0-2941-5735

E-mail : [email protected]

Facebook : Siam Intercool

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save